รูปแบบผ้าม่านแบ่งได้กี่ชนิด

PLEATED CURTAIN

(น.) “ม่านจีบ” เป็นผ้าม่าน ที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ เพราะสามารถเข้ากันได้กับทุกห้อง ทุกสไตล์ การเลือก ติดม่านจีบจะทำให้ห้องดูสวยหรู อลังการ หากต้องการให้ห้องนั้นมีอารมณ์ร่วมสมัย เรียบหรู และดูเรียบร้อย ให้ทำรางม่านซ่อนบนฝ้าเพดานได้ ม่านจีบจึงเหมาะกับสไตล์บ้านที่ดูคลาสสิค ร่วมสมัย สวยหรู

WAVE CURTAIN

(น.) “ม่านลอน” จุดเด่นของม่านลอนนั้น คือที่หัวม่านนั้น ถูกขดไปมาเป็นรูปตัวเอสซ้ำไปมา มีความเป็นระเบียบ เหมาะสำหรับ งานที่เน้นความหรูหราและเรียบง่ายอย่างแนว MUJI หรือสไตล์โมเดิร์น ผ้าจะดูเป็นลอนอย่างสม่ำเสมอและดูมีมิติกว่าม่านประเภทอื่นๆ

EYELETS CURTAIN

(น.) “ม่านตาไก่” ม่านตาไก่เหมาะสำหรับคนที่เน้น ความทันเรียบง่าย เนื่องจากม่านรูปแบบนี้ จะโชว์ รางม่านชัดเจน โดยสามารถเลือกแบบรางม่าน และ หัวรางให้เข้ากับสไตล์ของห้องได้ ส่วนผ้าม่านที่ได้ จากการสอดผ่านห่วงตาไก่ จะได้ลอนที่ดูพริ้วไหว สวยงาม เพิ่มมิติให้ห้องดูมีเสน่ห์มากขึ้น โดยนิยม ติดแบบสำเร็จรูป และงบประมาณที่จำกัด

ROMAN BLINDS

(น.) “ม่านพับ” รูปแบบเหล่านี้มักใช้สำหรับพื้นที่ด้านบนเยอะ พื้นที่ขนาดจำกัด และสะดวกต่อการจัดเก็บ แต่สามารถ เพิ่มความสง่างามให้กับห้องได้ม่านพับจะนิยมใช้กับหน้าต่าง เนื่องจากไม่กินพื้นที่ ช่วยให้ห้องดูโปร่งไม่รกสายตา ม่านพับจึงเหมาะกับการตกแต่ง บ้านสไตล์โมเดิร์น รูปแบบทันสมัย และเรียบหรู

LOOPS CURTAIN

(น.) “ม่านคอกระเช้า” ผ้าม่านมาทำเป็นห่วงของม่านภายในตัว และเย็บ ติดกับกระดุม หรือ ผูกโบว์เพื่อเพิ่มลูกเล่นให้กับตัวม่าน แลดูเป็นธรรมชาติ มากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับ ผู้ที่ชื่นชอบความเรียบง่าย ข้อดีอีกประการหนึ่ง ของม่านชนิดนี้คือ สามารถใช้กับรางม่านที่ถอดลำบากได้ เพราะการที่เย็บ แบบติดกระดุมหรือเมจิกเทปด้านหลังม่านทำให้สามารถแขวนและถอดผ้าม่าน ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องถอดรางออก

(น.) “ม่านสอดแป๊บ” “ม่านสไตล์มินิมอล เย็บแบบเรียบๆ มีสไตล์ เฉพาะตัวด้วยการนำผ้ามาเย็บให้เกิดเป็นช่องว่างในด้านบน ของตัวผ้า เพื่อสอดเข้าใส่ในรางโชว์ม่าน และจับเป็นจีบย่นๆ ให้ได้ช่วงที่พอเหมาะ อันเป็น เอกลักษณ์ของม่านชนิดนี้ ซึ่งสามารถรวบม่านเก็บไว้ข้างๆ เมื่อต้องการเปิดรับแสงจาก ภายนอก หรือปิดม่านเพื่อให้เห็นลวดลาย อันสวยงามของผ้าที่คุณเลือกใช้ ในยามที่ต้องการ บดบังแสงแดดจาก ภายนอก จึงทำให้ม่านชนิดนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่นิยมตกแต่งบ้านให้ดูมี ความคลาสสิค และเรียบง่าย ในขณะเดียวกัน”

LOUIS CURTAIN

(น.) “ม่านหลุยส์” “ม่านสไตล์มินิมอล เย็บแบบเรียบๆ มีสไตล์ เฉพาะตัวด้วยการนำผ้ามาเย็บให้เกิดเป็นช่องว่างในด้านบน ของตัวผ้า เพื่อสอดเข้าใส่ในรางโชว์ม่าน และจับเป็นจีบย่นๆ ให้ได้ช่วงที่พอเหมาะ อันเป็น เอกลักษณ์ของม่านชนิดนี้ ซึ่งสามารถรวบม่านเก็บไว้ข้างๆ เมื่อต้องการเปิดรับแสงจาก ภายนอก หรือปิดม่านเพื่อให้เห็นลวดลาย อันสวยงามของผ้าที่คุณเลือกใช้ ในยามที่ต้องการ บดบังแสงแดดจาก ภายนอก จึงทำให้ม่านชนิดนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่นิยมตกแต่งบ้านให้ดูมี ความคลาสสิค และเรียบง่าย ในขณะเดียวกัน”

CURTAIN PELMETS

(น.) “ม่านบังราง” ในกรณีที่บ้านของลูกค้าไม่ได้ทำหลืบฝ้า และไม่ต้องการให้เห็นรางผ้าม่าน สามารถทำเป็นม่านบังราง หรือสามารถทำเป็นกล่องไม้หุ้มเพื่อบังรางได้ โดยม่านบังราง สามารถทำเป็นแบบจีบทวิส หรือเรียบๆเลยก็ได้

BALLOON SHADE PLEATED

(น.) “ม่านน้ำตก/ม่านยก” ม่านรูปแบบนี้เหมาะกับสถานที่ที่ต้องการ สร้างบรรยากาศ ความนุ่มนวล อบอุ่น ด้วยลักษณะที่อ่อนช้อย สวยงาม ซ้อนเรียงเป็นชั้นๆตามแนวดิ่ง ลดหลั่นพอเหมาะ บางคนบอกคล้ายน้ำตก หรือบอลลูน มองสบายตา ในสไตล์คลาสสิค ดูสวยงาม โดดเด่น เหมาะกับทุกสถานที่ โรงแรม รีสอร์ท หรือที่มีคนพลุกพล่าน และโถงบันได ที่มีความสูง ดูสวย สะดุดตา มีระดับมากยิ่งขึ้น